เนื่องจากที่ไม่ได้ไปเชียงใหม่มาหลายปีดีดักแล้ว ถึงแม้ว่าบ้านผมจะอยู่เชียงรายก็ตาม ทำให้ภาพ
บรรยกาศต่างๆเลือนไปมาก และโอกาสก็มาถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา เพราะผมกำลังจะไปหาน้อง "ลูกปัด"
แม่น้ำปิงกับสะพานนครพิงค์
น้องลูกปัดนี่มิใช่กิ๊กหรือคนรักใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นลูกปัดซือๆนี่แหละ อาทิ ลูกปัดหินสี ลูกปัดทองเหลือง ลูกปัดเงิน และอีกปะเลอะปะเต๋อ... และที่สมพงษ์กว่านั้นก็คือ น้องลูกปัด อยู่ที่ร้านลูกปัด 55555555+++ เริ่มงงเพราะความกดอากาศสูงอีกแล้วครับท่าน
ที่ผมมาเชียงใหม่สืบเนื่องจากผมต้องการอุปกรณ์บางอย่างที่ใช้ทำสร้อยข้อมือที่ผมตามหามานาน ทั้งที่สำเพ็งและจตุจักรก็หาไม่เจอ แต่ดั้นตอนนั่งเล่นเน็ตเจอสิ่งนัั้นที่ร้าน "ลูกปัด" นี้เข้าให้ นั่งชั่งใจอยู่นานนนนนนนนนนน หลายนาที จึงตัดสินใจไปเชียงใหม่ทันที(ใจง่ายดีนะเรา) เจอข้อมูลวันเสาร์ตอนเย็นๆ พอถึงเช้าวันอาทิตย์ก็ออกเดินทางทันที ผมว่าหลายๆคนอาจจะเคยเป็นบ้างเหมือนกันนะครับ การที่เราต้องการหรือรอคอยบางสิ่งบางอย่างแต่สิ่งนั้นกลับหาไม่เจอทั้งๆที่ บางทีมันอยู่แค่ปลายจมูกเราเท่านั้นและอีกเช่นกัน เมื่อเจอสิ่งนั้นเราก็แทบจะกระโจนเข้าหามันทันที
เชียงใหม่วันนี้มีอะไรใหม่ๆอีกแล้วครับท่าน นั่นคือท่ารถขนส่งใหม่นั่นเอง(อยู่บริเวณเดิมแต่ขยายเนื้อที่ออกไป) เห็นคนแถวนั้นบอกว่าเปิดใช้มาได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว ดูโอ่อ่าและใหญ่โตกว่าของเก่ามากและผู้ใช้บริการก็ยังคับคั่งเหมือนเดิม และเชียงใหม่วันนี้ไม่หนาวเหมือนเดิมแล้ว เพราะทันที่ทีผมลงรถที่โดยสารมาจากเชียงรายก็ต้องถอดเสื้อกันหนาวออกทันที

เจ้าชายดอยตุง "น้องครับจากที่นี่(สถานีขนส่ง)ไปกาดหลวงไกลไหมครับ"
น้องชายแปลกหน้า " ไม่ไกลครับ(สำเนียงแปร่งๆ)"
เจ้าชายดอยตุง "เดินไปได้ไหมครับ ประมาณกี่กิโลครับ"
น้องชายแปลกหน้า "เดินไปได้ครับ ไม่ไกลจากที่นี่
" รึว่าน้องเขากำลังตกใจกับคำถามว่าจะเิดินไปเองว่าทำไมพี่ช่างถึกเช่นนี้ แต่คิดอีกทีคงได้ความเท่านี้จริงๆแล้วล่ะ...เดินก็เดินว่ะ..

โรงเรียนนี้ชื่อเพราะดี ใครอยากเป็นดาราแนะนำให้เข้าเรียนที่นี่ก่อนเข้าวงการ อิอิ..
คันนี้ต้องโมอย่างแรง ไม่รู้ว่ายันฮีจะเอาอยู่ไหม เยินเกิ๊น แต่หากมองอีกมุมก็ แคสสิคค่อดดดดดด
จากการที่เราเตรียมตัวมาเล็กน้อยดูในแผนที่ กาดหลวงหรือตลาดวโรรสแหล่งรวมของกินและของฝากของชาวเชียงใหม่อยู่ไม่ไกลและเดินไปได้ง่ายๆเลยคือตามถนนแก้วนวรัฐตรงไปเรื่อยๆ จนข้ามสะพานนครพิงค์ แล้วเลี้ยงซ้ายก็ถึงกาดหลวงแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่าเราจะเดินไปถึงได้ แต่ก็ด้วยความเชื่ออีกนั่นล่ะที่ทำให้เราเดินไปถึงได้ เอ๊ะยังไง ก็ก่อนเริ่มเดินเราตั้งเป้าหมายว่าจะเดินไปร้านลูกปัดที่กาดหลวงโดยเดินไป เรื่อยๆ ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ขาไปเหมือนจะไกลแต่พอตอนเดินกลับเหมือนว่าใกล้มาก.... ประสพการณ์จากการที่เดินไปก็คือ เมื่อเรามีเป้าหมายต้องการไปให้ถึง มันจะดูเหมือนมองไม่เห็นจุดหมายปลายทางเพราะเป็นหนทางใหม่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเดินผ่านเป้าหมายไปแล้วหันกลับมามองจะรู้สึกว่า ง่ายมาก..
แม่น้ำปิงไม่รู้ว่ามีปลิ๋งไหมมมมมมมมมมมมมมมม
มุมนี้ถ่ายบนสะพานลอยบริเวณกาดหลวง สภาพของตัวสะพานนี่พร้อมที่จะถล่มได้ตลอดเวลา เอาเป็นว่าเสี่ยงตายข้ามถนนกับรถที่คับคั่งด้านล่างยังจะเสี่ยงน้อยกว่าอีก..
ผลไม้ชนิดนี้รับประทานมากไม่ดี โดยเฉพาะสาวแรกรุ่น ฮิ้ววววววววววว.
ก่อนไปร้านลูกปัดเราก็ต้องหาอะไรรองท้องกันก่อนและแน่นอนที่ขาดไม่ได้ คือไส้อั่วคนเมืองอร่อยๆในกาดหลวงนั่นเอง มีหลายร้านให้เลือกสรรค์มากมาย บางร้านนี่คนแน่ขนัดเหมือนนอนกำลัง... 555+++ เหมือนแจกฟรี ผมเลยเลือกชิมร้านที่ไม่ค่อยมีคนถึงแม้จะอยู่ตรงข้ามกับร้านที่ขายดีก็ตาม สรุปซื้อไส้อั่ว 1 ขีดราคา 35 บาทแต่ชิ้นนั้นมันหนักขีดกว่าๆ ราคา 40 บาทอิ่มไปค่อนวัน รสชาติก็พอรับได้ อร่อยแบบพอเพียง(สรุปว่ามันอร่อยไหมหว่า)
ร้านนี้อร่อยหรืออย่างไรทำไมมีแต่คนมุง หรือมุงอย่างเดี๋ยวไม่ซื้อหว่า..
หลังจากจัดการกับไส้อั่วเรียบร้อยแล้วก็เดินต่อไปที่ร้านลูกปัด และเพิ่งทราบว่าบริเวณรอบๆนั้นใกล้ๆกันเป็นแหล่งรวมร้านค้าผ้าปักมือของพี่น้องชาวม้ง อาทิ กระเป๋า กางเกง ที่รัดผม ผ้าปูเตียง มาขายเยอะมว๊ากกกกกกกกกก เป็นแหล่งขายส่งที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ใครมีโอกาสไปอย่าลืมไปอุดหนุนนะครับเพราะราคาไม่แพงเลย แต่ผมไม่ได้สอยมา เพราะตั้งใจมาซื้อลูกปัดโดยเฉพาะ อารมณ์ว่าเบี้ยน้อยหอยน้อย ณ จุดนั้น 555++
ร้านนี้ดูกระเป๋าโมเดิ้นมากสังเกตุที่หูจับของกระเป๋าใช้สายหนังแท้นะเออ รูปแบบก็สวย แอบเห็นฝรั่งเหมาไปรายละหลายใบ
ร้านนี้ต้องสอยเอา พอสอยได้แล้วก็วิ่งหนีเลย เพราะมันเป็นเสื้อผ้าชาวบ้าน เอิ๊กกกกกกกก.
ป้าสองนางนี้กำลังเปียแชร์กันแหง๋ๆๆ
ไปถึงร้านลูกปัดแล้วไม่ผิดหวัง มีของให้เลือกหลากหลาย ที่สำคัญลูกสาวเจ้าของร้านบริการดีมากเธอชื่อคุณเมย์
ประมาณว่าอยากได้เท่าไหร่จ้วงเอาเลยแล้วไปชั่งกิโล เหมือนซื้อขนมชั่งน้ำหนักในบิ๊กซีเลยอ่ะ
ใครอยากรู้อะไรถามได้เลย มีบริการสอนและซ่อมเครื่องประดับให้ด้วย เลือกของอยู่ประมาณสามชั่วโมง หมดตัวไปเลยตั้งใจว่าจะซื้อชิ้นที่อยากได้เท่านั้นแต่แม่เจ้าโว้ย พอไปถึงที่แล้ว โน่นนี่นั่นอยากได้ไปหมดกิเลสครอบงำ และสุดท้ายตัวเบาโหวงออกมาเลย อิอิ..
มุมนี้วนเวียนอยู่หลาบรอบเพราะอยากได้ทั้งหมดแต่งบไม่เอื้ออำนวย
ที่จ่ายเงินจะมีอะไหล่บางอย่างและเม๊ดคริวตอลราคาแพงอยู่จำหน่ายบริเวณนี้
แล่วๆๆๆ หีนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน เยอะแยะไปหมด(18++)
มีเชือดคอตตอนแบ่งขายให้ด้วยสำหรับลูกค้าที่ต้องการไม่มาก ประหนึ่งว่าเอาไปลองทำก่อน ผมล่อมันครบทุกสีเลย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก..
ลูกปัดไม้ก็พอให้มีเลือก เป็นกระดุมไม้ก้มี
ด้านนอกร้านจะมีโซ่ขายแบบเป็นหลา ส่วนอีกด้านก็จะมีเชือกหนังแท้และเชือกเทียนขายเป็นหลาเช่นกัน แต่หากใครอยากได้มากๆและประหยัดกว่าที่ร้านเขาก็มียกม้วนขายให้เหมือนกัน
ราคาโดนใจ 10 บาทเอง แต่สินค้าไม่โดนใจ 5555555555+++
ร้านนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เมียงมองจากข้างนอกเข้าไป งานส่วนใหญ่จะสำเสร็จเรีบยร้อยแล้ว ทั้งสร้อยข้อมือ สร้อยคอ ต่างหู เป็นต้น แต่ลูกปัดก็มีขายด้วย ขายส่งอีกต่างหาก
ยังพอมีเวลาเหลือกว่ารถจะออก และแรงดียังไม่ตก เดินต่อไปเที่ยวแถวๆประตูท่าแพ ที่ซึ่งมีแต่ฝรั่งและสา่วเชียงใหม่ผู่น่ารักใส่สั้นเสมอ...รับลมหนาว ฮิ้วววววววววววววววว.. ต่อด้วยเดินไปที่ไนท์บาร์ซ่าเชียงใหม่ไปหากาแฟสตาร์บัคกินปิดท้าย แล้วเดินกลับ..(ถ้าไม่เคยเดินขึ้นไปภูกระดึงมาก่อนทำไม่ได้นะนี่ อิอิ)


Music Playlist at MixPod.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น